วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ผู้ก่อตั้งโรงเรียน
ความเป็นมหาวชิราวุธยิ่งใหญ่เกรียงไกรมามากกว่า 100 ปี และยังคงอยู่ในสายเลือดสืบสายกันมารุ่นต่อรุ่น แต่จะมีใครสักกี่คนกันเล่าที่ยังจดจำเรื่องราวประวัติความเป็นมา และรู้ว่าผู้ให้กำเนิดโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา คือใคร...
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554
เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
มหาอำมาตย์นายก
เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
ภูมิกำเนิด
มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นชาวตำบลบ้านน้ำตก
อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม 2405 บิดาชื่อกลั่น มารดาชื่อผึ้ง มีพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน
อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม 2405 บิดาชื่อกลั่น มารดาชื่อผึ้ง มีพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน
การศึกษาเล่าเรียน
พ.ศ.2411 ขณะอายุ 6 ขวบ ได้ติดตามพระใบฎีกาอ่วม ไปอยู่วัดหงส์รัตนารามธนบุรี
และได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ
และได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ
พ.ศ.2418 อุปสมบทเป็นพระภิกษุศึกษาภาษาไทย และภาษาบาลีจนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
พ.ศ.2426 ลาสิกขาบทแล้วเข้ารับราชการเป็นครูสอนภาษาไทย
ณ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยคำแนะนำของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ณ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยคำแนะนำของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ราชทินนาม ตำแหน่งและยศ
พ.ศ.2427 เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรไทยแด่ กรมพระจันทบุรีนฤนาท
กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กรมหลวงปราจิณกิติบดี กรมหลวงนครชัยศรีสุรเดช
และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กรมหลวงปราจิณกิติบดี กรมหลวงนครชัยศรีสุรเดช
และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พ.ศ.2429 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น “ ขุนวิจิตรวรสาส์น ” ตำแหน่งอาลักษณ์
ติดตามไปถวายพระอักษรแด่พระโอรสทั้ง 4 พระองค์ ณ ประเทศอังกฤษ
ติดตามไปถวายพระอักษรแด่พระโอรสทั้ง 4 พระองค์ ณ ประเทศอังกฤษ
พ.ศ.2434 ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขานุการในสถานทูตชั้น 1 และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
เป็น “พระวิจิตรวรสาส์น”
เป็น “พระวิจิตรวรสาส์น”
พ.ศ.2436 ได้เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรไทยแด่ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ณ ประเทศอังกฤษ
พ.ศ.2438 ได้เป็นข้าหลวงพิเศษตรวจการมหาดไทยที่เมืองสงขลา และนครศรีธรรมราช
เพื่อเตรียมการจัดตั้งเป็นมณฑล
เพื่อเตรียมการจัดตั้งเป็นมณฑล
พ.ศ.2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จเมืองสงขลาเห็นว่าเป็นเมืองที่เจริญขึ้นมาก
เพราะการบริหารงานของพระวิจิตรวรสาส์น จึงทรงประกาศตั้งเป็นมณฑลนครศรีธรรมราช
เพราะการบริหารงานของพระวิจิตรวรสาส์น จึงทรงประกาศตั้งเป็นมณฑลนครศรีธรรมราช
และทรงเลื่อนบรรดาศักดิ์พระวิจิตรวรสาส์นขึ้นเป็น “พระยาสุขุมนัยวินิต” ตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช
พ.ศ.2451 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “เจ้าพระยายมราช”
พ.ศ.2460 หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลง ได้รับพระราชทานยศเป็น “มหาอำมาตย์นายก”
ซึ่งเทียบเท่าจอมพลทหาร
พ.ศ.2470 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี
พ.ศ.2477 สภาผู้แทนราษฎรลงมติแต่งตั้งให้เจ้าพระยายมราชสำเร็จราชการแทนพระองค์
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้มาจนถึงแก่อสัญกรรม
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้มาจนถึงแก่อสัญกรรม
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม
วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
พระยาวิเชียรคิรี (ชม ณ สงขลา)
ภูมิกำเนิด
พระยาวิเชียรคิรี (ชม ณ สงขลา) เป็นเจ้าเมืองสงขลาในตระกูล ณ สงขลา คนสุดท้าย
(คนที่ 8) เกิดที่ตำบลบ้านป่าหมาก เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2397
เป็นบุตรคนโตของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร์) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลากับคุณหญิงพับ
และเป็นหลานชายคนโตของเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (เม่น) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ในตระกูล
ณ สงขลา คนที่ 6
การศึกษาเล่าเรียน
เริ่มเรียนหนังสือไทยกับเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (เม่น) ผู้เป็นปู่ วิชาช่างไม้ วิชาการยิงปืน
กับพระยาหนองจิก (เวียง) วิชาโหราศาสตร์กับคุณหญิงพับ สุนทรานุรักษ์ (มารดา) วิชาแพทย์
กับหมอทิมชาวกรุงเทพฯ
และท่านเจ้าวัดโปรดเกษ วิชาการเดินเรือกับกัปตันวรดิกสกี วิชาการถ่ายรูปกับหลวงอรรคนีนฤมิตร
มิสเตอร์ลำเบิก และมิสเตอร์เนาต้า และวิชาช่างเหล็ก ช่างทอง วิชาการทำแผนที่ จนตั้งโรงงานไว้ในบ้านมีเครื่องจักรกลหลายอย่าง รวมทั้งโรงพิมพ์ ห้องถ่ายภาพเป็นของตนเอง ชอบการช่างฝีมือทำสิ่งของ
และเครื่องใช้ เครื่องประดับต่างๆ ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายเจ้านาย แจกข้าราชบริพาร มิตรสหายเป็นที่ระลึก
การรับราชการ
พ.ศ.2413 รับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์ เป็นหลวงวิเศษภักดี ดำรงตำแหน่ง
"ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2431 โปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสุนทรานุรักษ์” ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา รักษาราชการเมืองสงขลา เนื่องจากพระยาวิเชียรคิรี (ชุ่ม) ถึงแก่อสัญกรรม
พ.ศ.2433 เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาวิเชียรคิรี ศรีสมุทวิสุทธิ์ศักดามหาพิไชยสงคราม
รามภักดีอภัยพิริยะบรากรมพาหุ” ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา
พ.ศ.2444 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นจางวางกำกับราชการเมืองสงขลา รับพระราชทานเบี้ยบำนาญ และเป็นแม่กองสร้างถนนตั้งแต่หน้าศาลาว่าการมณฑลไปถึงแหลมทรายชายทะเลยาวประมาณ 50 เส้น โปรดเกล้าฯพระราชทานนามถนนว่า “ถนนวิเชียรชม” ท่านถึงแก่อสัญกรรม
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2447 รวมอายุได้ 50 ปี
**ศึกษาประวัติเพิ่มเติมได้ที่ พระยาวิเชียรคีรี(ชม ณ สงขลา)
.
พระยาวิเชียรคิรี (ชม ณ สงขลา) เป็นเจ้าเมืองสงขลาในตระกูล ณ สงขลา คนสุดท้าย
(คนที่ 8) เกิดที่ตำบลบ้านป่าหมาก เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2397
เป็นบุตรคนโตของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร์) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลากับคุณหญิงพับ
และเป็นหลานชายคนโตของเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (เม่น) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ในตระกูล
ณ สงขลา คนที่ 6
การศึกษาเล่าเรียน
เริ่มเรียนหนังสือไทยกับเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (เม่น) ผู้เป็นปู่ วิชาช่างไม้ วิชาการยิงปืน
กับพระยาหนองจิก (เวียง) วิชาโหราศาสตร์กับคุณหญิงพับ สุนทรานุรักษ์ (มารดา) วิชาแพทย์
กับหมอทิมชาวกรุงเทพฯ
และท่านเจ้าวัดโปรดเกษ วิชาการเดินเรือกับกัปตันวรดิกสกี วิชาการถ่ายรูปกับหลวงอรรคนีนฤมิตร
มิสเตอร์ลำเบิก และมิสเตอร์เนาต้า และวิชาช่างเหล็ก ช่างทอง วิชาการทำแผนที่ จนตั้งโรงงานไว้ในบ้านมีเครื่องจักรกลหลายอย่าง รวมทั้งโรงพิมพ์ ห้องถ่ายภาพเป็นของตนเอง ชอบการช่างฝีมือทำสิ่งของ
และเครื่องใช้ เครื่องประดับต่างๆ ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายเจ้านาย แจกข้าราชบริพาร มิตรสหายเป็นที่ระลึก
การรับราชการ
พ.ศ.2413 รับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์ เป็นหลวงวิเศษภักดี ดำรงตำแหน่ง
"ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2431 โปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสุนทรานุรักษ์” ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา รักษาราชการเมืองสงขลา เนื่องจากพระยาวิเชียรคิรี (ชุ่ม) ถึงแก่อสัญกรรม
พ.ศ.2433 เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาวิเชียรคิรี ศรีสมุทวิสุทธิ์ศักดามหาพิไชยสงคราม
รามภักดีอภัยพิริยะบรากรมพาหุ” ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา
พ.ศ.2444 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นจางวางกำกับราชการเมืองสงขลา รับพระราชทานเบี้ยบำนาญ และเป็นแม่กองสร้างถนนตั้งแต่หน้าศาลาว่าการมณฑลไปถึงแหลมทรายชายทะเลยาวประมาณ 50 เส้น โปรดเกล้าฯพระราชทานนามถนนว่า “ถนนวิเชียรชม” ท่านถึงแก่อสัญกรรม
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2447 รวมอายุได้ 50 ปี
**ศึกษาประวัติเพิ่มเติมได้ที่ พระยาวิเชียรคีรี(ชม ณ สงขลา)
.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)